ผญาธรรมคติ
วันนี้ขอพูดถึงเรื่องผญาที่เกี่ยวกับธรรมคติเตือนใจ
เก็บรวบรวมจากบ้านอีสานโกอินเตอร์เพื่อเป็นข้อคิดในการ
ดำเนินชีวิตครับ
แสงสุรีย์เบิกฟ้า......... ........สักกุณาออกบินเสิ่น
แสงพระธรรมโบกเอิ้น....... ..ให้มาพี้บ่อนสบาย
บ่วุ่นวายเคืองข้อง....... .......หากมีแต่ควมสุข
บ่ได้มีควมทุกข์.......... ........ให้ขุ่นหมองกะใจเจ้า
ให้ฟ้าวเด้อซุมเจ้า....... .........ฟ้าวมาหาพระธรรมก่อน
สังขารข่อนฝั่งแล้ว....... .........ให้หาหม่องบ่อนดี
อย่าสิมัวหลบลี้.......... ........ในแจอันมืดหม่น
อย่าสิมัวมุดหม้น......... .......ในถ้ำแห่งอบาย
กานกายาชราเฒ่า........... ....ให้คึดเอาอีหยังแม่น
พระสัมมาเพิ่นบอกแล้ว..... .....บันไดแก้วสู่สวรรค์
อย่าสุปิดกีดกั้น......... ...........ประตูสู่ควมสุข
บัดห่ามีควมทุกข์......... ........สิจ่มหาแนวค้ำ
องค์พระธรรมอยู่ทางพี้.... ......ให้มาตีฮิบฟ้าวฝั่ง
พระธรรมยังคอยถ่า......... .....ให้มาโลดคู้สู่คน
หวังให้คนหย่างย้าย.... .....ให้ถืกป่องคลองธรรม
จั่งได้นำคำสอน........... ......พ่อพุทโธเพิ่นมาเว้า
จั่งได้เอาธรรมตั้ง....... ........มาบรรยายให้ฮู้เหรื่อง (เรื่อง)
ห่าได้เรืองส่องแจ้ง...... ......เป็นไฟให้ส่องทาง
อย่าให้ศาสนาฮ่าง......... ......พังมุ่นบ่ยืนยาว
ให้เจ้าเอาควมดี.......... ........มาส่อยซูให้คงไว้
ใจให้มีธรรมตั้ง.......... .........อย่าธรรมพระองค์กล่าว
ให้จำเด้อสาวบ่าว......... ........เฮายังเป็นหนุ่มน้อยให้คงมั่นต่อพระธรรม..แหน่เด้อ...
ง่าไม้โพธิ์ยังชูตั้ง.. ..................เสียงระฆังยังดังหม่วน
อยากสิซวนพี่น้อง......... .........ให้มองเข้าวัดวา
ประตูโขงยังเปิดอ้า....... ...........ให้เหลียวหล่ำสาธุชน
อดีตคนเคยทำ.............. .........ก่อบุญกุศลตั้ง
ให้มันยังคงไว้........... ...............คือระฆังยังดังหม่วน
ให้ส่อยซูส่อยซ่วน........ .............ซวนกันเข้าเฮ็ดบุญ......แหน่เด้อ
จิตของคนเพิ่นว่าไว้.... ...........เปรียบเฮือล่องในลำธาร
ไหลตามกาลเวลา............ .....ล่องลงไปบ่มียั้ง
ย้อนว่ายังตัณหาให้....... ..........จิตใจคนตกต่ำ
ปล่อยปะธรรมบ่สมสร้าง..... ........วางไว้บ่ใส่ใจ
จิตจั่งไหลลงก้ำ.......... ............ทางต่ำบ่ลอยทวน
บ่ย้อนหวนคืนมา........... ...........บ่อนสูงที่ใสแจ้ง
ลอยตะแคงลอยคว่ำ.......... ........ลอยลำลงหม่องต่ำ
จิตกะลอยห้วงน้ำ.......... ...........ตัณหาหม่องแก่ง วน....พุ้นแหล่ว
กะปูคองคอยถ่า.......... ..............ฝนตกมาให้เย็นซุ่ม
นกกะซุมหาหม่องซ่น........ ..........บัดฝนย้อยหลั่งลง
อัสดงตาเว็นย้อน.......... ..............เบิดเวลากะร่วงหล่น
คนคือกันพี่น้อง.......... ................เบิดยามแล้วกะเหล่าตาย
อันนี้เพิ่นว่าไว้........ ....................บ่อนเถิงหว่างเถิงคาว
เถงฤดูกาลมา.............. ...............กะเหล่าเป็นแนวนั้น
แนวว่าขันธ์มันฮ่าง....... ................ไผกะวางปะปล่อย
ธาตุกะแตกมิดม้อย......... .............เป็นแนวนี้ อนิจจัง
ศาสนาบ่ทันฮ่าง........ ....คนหากห่างหนีไกล
เอาหัวใจห่างเหิน......... ...บ่อนพระธรรมคำเว้า
บ่ได้เอาใจตั้ง........... ......นำคำพระองค์หว่า
ศาสนากะเหงี่ยงค่อย....... .คอยถ้าสิมุ่นพัง......ท่อ นั้นแหล่ว
แสงพุทโธนำทางแจ้ง........ ..........แสงพระธรรมกะนำส่อง
เสียงดังโหม่งโหม่งฆ้อง... .............กะดังได้หม่วนหู
แสงกับเสียงใด๋สิสู้...... .................ที่ได้กล่าววาจาไข
แสงแสงใด๋สิมาเทียม....... ............เปรียบดั่งแสง พระธรรมจ้า
แสงอาทิตย์ว่าฮุ่งแล้ว.... ...............แนวคนเดินยังผิดป่อง
แสงพระธรรมนี่พี่น้อง..... ..............จั่งสิแจ้งฮุ่งตา
เสียงเสียงใด๋ดังคับฟ้า... ................ก้องสนั่น เถิงเวหน
หรือสิเสียงมนต์ตรา....... ................กะบ่เทียม เสียงฆ้อง
เสียงหม่องหม่องอย่ามองข้า ม..........เป็นเสียงธรรมฟังแล้วหม่วน
เสียงหม่องๆม้วนๆ......... .................ว่าชวนเข้าบ่อนดี...พุ้นเด้อ
คนห่างธรรมบ่จำมั่น..... ..........ลืมเหล่าคองหลัง
สิเอาหยังน้อคน........... ..........หากบ่มีดีแล้ว
เอาแต่แนวควมชั่ว......... .........เมามัวบ่ถืกที่
ถามหาไสควมดี............. ........เจ้าส่างปะปล่อยถิ่มบ่มีไว้อยู่ใจ
เจ้าส่างเข้าป่าไม้....... ..............บ่หาป่องทางเมือ
ข้องคาเคือกะบ่ปด......... ..........ย่านเจ้าตายคานั่น
เคือกามพันธนังเกี้ยว..... ...........กุมเป็นเกียวเกี่ยวไว้อยู่
สิตายแล้วยังบ่ฮู้........ ..............ประโยชน์เจ้ากะบ่มี....ฮั่นเด
ผญาธรรมะคติ
ศาสนานับมื้อส่วย....... ........ คันกะบวยนับมื้อสื่อ
บ่าวสาวพวมขี้ดื้อ........ ....... พากันเล่นเที่ยวบาร์
ทางวัดวาบ่อยากใกล้....... ... มันบ่หม่วนซวนหนุก
เล่นเข้าหาควมทุกข์....... ..... กะบ่เคยเพียรฮู้
บ่เคยดูบ่เคยใช้.......... ....... เอาหูฟังธรรมจักเถื่อ
พอปานเฮือลำน้อย.......... ... พวมแล่นเข้าแก่งวัง....ฯลฯ
อย่าสุมัวเมาด้น....... ........ เดินทางอยู่กางป่า
ให้ถามผู้เพิ่นฮู้........ ........ จูงแขนเข้าใส่ทาง
อย่าสุมัวก้าวย่าง........ ..... หลงหย่างกางพงไพร
อย่าสุเดางมไป............ ... หากสิเสียเวลาเจ้า
คนเฮานับมื้อเฒ่า......... ... กายกายาชราแก่
ออกจากเสือสิพ้อแข้....... . คันบ่ฮู้ฮ่อมไป
เพิ่นบอกทางให้จำไว้...... ... อย่าได้ลื่นคำจา
เด็กน้อยบอกผู้ชรา........ .... กะอย่าทำเป็นฮ่าย
ลางเถื่อเด็กน้อยฮู้...... ........ เห็นทางสิก้าวหย่าง
คือจั่งเสือกับช้าง....... ........ ยังบ่ฮู้บ่อนปลา
อย่ามีอคติฮ้อน........... ....... ถือว่าโตเกิดก่อน
สิบอกบ่อนทางให้ฮู้....... ....... พอให้เจ้าค่อยไป
เมืองพระธรรมข่อยนี้ได้... ...... เดินท่องพอสมควร
พอได้เห็นกระบวน.......... ..... บ่อนทางสิเมือบ้าน
วาจาขานพอให้ฮู้.......... ....... ผู้ฟังธรรมให้จำจื่อ
อย่าถืออคติฮ้าย.......... ......... ให้ฟังไว้บัดห่าดี ฯลฯ
ยืนอยู่กางป่ามืด......... ..... มัวมิดบ่มีแสง
เอาพระธรรมส่อยแยง........ ส่องแสงให้เดินก้าว
ให้เจ้าเดินตามเส้น....... ...... หนทางแสงพระธรรมส่อง
หย่างไปให้ถืกหม่อง....... ... สิสมแท้ดั่งมโน........พุ้นแหล่ว......
พี่น้องเอ้ย..ศาสนาบ่ทันฮ่าง.......ยังมีทางให้เดินเบิ่ง
บ่ทันเถงขวบก้ำ........... ....บ่มีฮ่างมุ่นพัง
หากพระธรรมยังตั้ง........ ..ในใจแห่งสาธุชน
ศาสนากะยังทน............. .บ่อ่อนแอลงได้
หากแต่ใจคนสิฮ่าง......... .ห่างคำเพิ่นสอนสั่ง
ศาสนาสิบ่ตั้ง............ .....ยืนมั่นสิมุ่นเพ..... .ท่อนั้นแหล่ว
เก็บรวบรวมจากบ้านอีสานโกอินเตอร์เพื่อเป็นข้อคิดในการ
ดำเนินชีวิตครับ
แสงสุรีย์เบิกฟ้า......... ........สักกุณาออกบินเสิ่น
แสงพระธรรมโบกเอิ้น....... ..ให้มาพี้บ่อนสบาย
บ่วุ่นวายเคืองข้อง....... .......หากมีแต่ควมสุข
บ่ได้มีควมทุกข์.......... ........ให้ขุ่นหมองกะใจเจ้า
ให้ฟ้าวเด้อซุมเจ้า....... .........ฟ้าวมาหาพระธรรมก่อน
สังขารข่อนฝั่งแล้ว....... .........ให้หาหม่องบ่อนดี
อย่าสิมัวหลบลี้.......... ........ในแจอันมืดหม่น
อย่าสิมัวมุดหม้น......... .......ในถ้ำแห่งอบาย
กานกายาชราเฒ่า........... ....ให้คึดเอาอีหยังแม่น
พระสัมมาเพิ่นบอกแล้ว..... .....บันไดแก้วสู่สวรรค์
อย่าสุปิดกีดกั้น......... ...........ประตูสู่ควมสุข
บัดห่ามีควมทุกข์......... ........สิจ่มหาแนวค้ำ
องค์พระธรรมอยู่ทางพี้.... ......ให้มาตีฮิบฟ้าวฝั่ง
พระธรรมยังคอยถ่า......... .....ให้มาโลดคู้สู่คน
หวังให้คนหย่างย้าย.... .....ให้ถืกป่องคลองธรรม
จั่งได้นำคำสอน........... ......พ่อพุทโธเพิ่นมาเว้า
จั่งได้เอาธรรมตั้ง....... ........มาบรรยายให้ฮู้เหรื่อง (เรื่อง)
ห่าได้เรืองส่องแจ้ง...... ......เป็นไฟให้ส่องทาง
อย่าให้ศาสนาฮ่าง......... ......พังมุ่นบ่ยืนยาว
ให้เจ้าเอาควมดี.......... ........มาส่อยซูให้คงไว้
ใจให้มีธรรมตั้ง.......... .........อย่าธรรมพระองค์กล่าว
ให้จำเด้อสาวบ่าว......... ........เฮายังเป็นหนุ่มน้อยให้คงมั่นต่อพระธรรม..แหน่เด้อ...
ง่าไม้โพธิ์ยังชูตั้ง.. ..................เสียงระฆังยังดังหม่วน
อยากสิซวนพี่น้อง......... .........ให้มองเข้าวัดวา
ประตูโขงยังเปิดอ้า....... ...........ให้เหลียวหล่ำสาธุชน
อดีตคนเคยทำ.............. .........ก่อบุญกุศลตั้ง
ให้มันยังคงไว้........... ...............คือระฆังยังดังหม่วน
ให้ส่อยซูส่อยซ่วน........ .............ซวนกันเข้าเฮ็ดบุญ......แหน่เด้อ
จิตของคนเพิ่นว่าไว้.... ...........เปรียบเฮือล่องในลำธาร
ไหลตามกาลเวลา............ .....ล่องลงไปบ่มียั้ง
ย้อนว่ายังตัณหาให้....... ..........จิตใจคนตกต่ำ
ปล่อยปะธรรมบ่สมสร้าง..... ........วางไว้บ่ใส่ใจ
จิตจั่งไหลลงก้ำ.......... ............ทางต่ำบ่ลอยทวน
บ่ย้อนหวนคืนมา........... ...........บ่อนสูงที่ใสแจ้ง
ลอยตะแคงลอยคว่ำ.......... ........ลอยลำลงหม่องต่ำ
จิตกะลอยห้วงน้ำ.......... ...........ตัณหาหม่องแก่ง วน....พุ้นแหล่ว
กะปูคองคอยถ่า.......... ..............ฝนตกมาให้เย็นซุ่ม
นกกะซุมหาหม่องซ่น........ ..........บัดฝนย้อยหลั่งลง
อัสดงตาเว็นย้อน.......... ..............เบิดเวลากะร่วงหล่น
คนคือกันพี่น้อง.......... ................เบิดยามแล้วกะเหล่าตาย
อันนี้เพิ่นว่าไว้........ ....................บ่อนเถิงหว่างเถิงคาว
เถงฤดูกาลมา.............. ...............กะเหล่าเป็นแนวนั้น
แนวว่าขันธ์มันฮ่าง....... ................ไผกะวางปะปล่อย
ธาตุกะแตกมิดม้อย......... .............เป็นแนวนี้ อนิจจัง
ศาสนาบ่ทันฮ่าง........ ....คนหากห่างหนีไกล
เอาหัวใจห่างเหิน......... ...บ่อนพระธรรมคำเว้า
บ่ได้เอาใจตั้ง........... ......นำคำพระองค์หว่า
ศาสนากะเหงี่ยงค่อย....... .คอยถ้าสิมุ่นพัง......ท่อ นั้นแหล่ว
แสงพุทโธนำทางแจ้ง........ ..........แสงพระธรรมกะนำส่อง
เสียงดังโหม่งโหม่งฆ้อง... .............กะดังได้หม่วนหู
แสงกับเสียงใด๋สิสู้...... .................ที่ได้กล่าววาจาไข
แสงแสงใด๋สิมาเทียม....... ............เปรียบดั่งแสง พระธรรมจ้า
แสงอาทิตย์ว่าฮุ่งแล้ว.... ...............แนวคนเดินยังผิดป่อง
แสงพระธรรมนี่พี่น้อง..... ..............จั่งสิแจ้งฮุ่งตา
เสียงเสียงใด๋ดังคับฟ้า... ................ก้องสนั่น เถิงเวหน
หรือสิเสียงมนต์ตรา....... ................กะบ่เทียม เสียงฆ้อง
เสียงหม่องหม่องอย่ามองข้า ม..........เป็นเสียงธรรมฟังแล้วหม่วน
เสียงหม่องๆม้วนๆ......... .................ว่าชวนเข้าบ่อนดี...พุ้นเด้อ
คนห่างธรรมบ่จำมั่น..... ..........ลืมเหล่าคองหลัง
สิเอาหยังน้อคน........... ..........หากบ่มีดีแล้ว
เอาแต่แนวควมชั่ว......... .........เมามัวบ่ถืกที่
ถามหาไสควมดี............. ........เจ้าส่างปะปล่อยถิ่มบ่มีไว้อยู่ใจ
เจ้าส่างเข้าป่าไม้....... ..............บ่หาป่องทางเมือ
ข้องคาเคือกะบ่ปด......... ..........ย่านเจ้าตายคานั่น
เคือกามพันธนังเกี้ยว..... ...........กุมเป็นเกียวเกี่ยวไว้อยู่
สิตายแล้วยังบ่ฮู้........ ..............ประโยชน์เจ้ากะบ่มี....ฮั่นเด
ผญาธรรมะคติ
ศาสนานับมื้อส่วย....... ........ คันกะบวยนับมื้อสื่อ
บ่าวสาวพวมขี้ดื้อ........ ....... พากันเล่นเที่ยวบาร์
ทางวัดวาบ่อยากใกล้....... ... มันบ่หม่วนซวนหนุก
เล่นเข้าหาควมทุกข์....... ..... กะบ่เคยเพียรฮู้
บ่เคยดูบ่เคยใช้.......... ....... เอาหูฟังธรรมจักเถื่อ
พอปานเฮือลำน้อย.......... ... พวมแล่นเข้าแก่งวัง....ฯลฯ
อย่าสุมัวเมาด้น....... ........ เดินทางอยู่กางป่า
ให้ถามผู้เพิ่นฮู้........ ........ จูงแขนเข้าใส่ทาง
อย่าสุมัวก้าวย่าง........ ..... หลงหย่างกางพงไพร
อย่าสุเดางมไป............ ... หากสิเสียเวลาเจ้า
คนเฮานับมื้อเฒ่า......... ... กายกายาชราแก่
ออกจากเสือสิพ้อแข้....... . คันบ่ฮู้ฮ่อมไป
เพิ่นบอกทางให้จำไว้...... ... อย่าได้ลื่นคำจา
เด็กน้อยบอกผู้ชรา........ .... กะอย่าทำเป็นฮ่าย
ลางเถื่อเด็กน้อยฮู้...... ........ เห็นทางสิก้าวหย่าง
คือจั่งเสือกับช้าง....... ........ ยังบ่ฮู้บ่อนปลา
อย่ามีอคติฮ้อน........... ....... ถือว่าโตเกิดก่อน
สิบอกบ่อนทางให้ฮู้....... ....... พอให้เจ้าค่อยไป
เมืองพระธรรมข่อยนี้ได้... ...... เดินท่องพอสมควร
พอได้เห็นกระบวน.......... ..... บ่อนทางสิเมือบ้าน
วาจาขานพอให้ฮู้.......... ....... ผู้ฟังธรรมให้จำจื่อ
อย่าถืออคติฮ้าย.......... ......... ให้ฟังไว้บัดห่าดี ฯลฯ
ยืนอยู่กางป่ามืด......... ..... มัวมิดบ่มีแสง
เอาพระธรรมส่อยแยง........ ส่องแสงให้เดินก้าว
ให้เจ้าเดินตามเส้น....... ...... หนทางแสงพระธรรมส่อง
หย่างไปให้ถืกหม่อง....... ... สิสมแท้ดั่งมโน........พุ้นแหล่ว......
พี่น้องเอ้ย..ศาสนาบ่ทันฮ่าง.......ยังมีทางให้เดินเบิ่ง
บ่ทันเถงขวบก้ำ........... ....บ่มีฮ่างมุ่นพัง
หากพระธรรมยังตั้ง........ ..ในใจแห่งสาธุชน
ศาสนากะยังทน............. .บ่อ่อนแอลงได้
หากแต่ใจคนสิฮ่าง......... .ห่างคำเพิ่นสอนสั่ง
ศาสนาสิบ่ตั้ง............ .....ยืนมั่นสิมุ่นเพ..... .ท่อนั้นแหล่ว
Sādhu Sādhu Sādhu
ตอบลบขออนุญาตก๊อบเอาไปให้หมู่อ่าน เป็นคติสอนใจแนเด้อค่ะ อนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
ตอบลบขอไปเผยแผ่ ให้ยาติโยน ได้เห็น ได้ฟัง
ตอบลบมันหลายเด้ท่านผญาธรรม ของเจ้ามวนชวนให้ใจคิดฮอดบ้าน ผญาตา้นนั้นมวนใจท่านเอ้ย.....มวนครับ
ตอบลบขอบคุณกับดติธรรม คำสอนดีๆ ขออนุญาตเผยแผ่นะค่ะ
ตอบลบขออนุญาตเผยแผ่เด้อครับ
ตอบลบขออนุญาติเผยแพร่ให้คนได้อ่านเด้อคับ
ตอบลบขออนุญาติแบ่งปัน ครับผม
ตอบลบขอนำไปเผยแผ่ต่อนะโยม
ตอบลบขออนุญาติ นำไปเตือนสติคนทุกคน
ตอบลบขออนุญาตนำไปเผยแพร่ อนุรักษ์ไว้นะครับ
ตอบลบ